นอกจากเรื่องสถิติการทำประตูของ เออร์ลิง เบราต์ ฮาแลนด์ กองหน้าดาวรุ่งของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ที่ทำได้อย่างโดดเด่น นับตั้งแต่ย้ายจาก เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก ไปร่วมทีมเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา นักเตะก็ยังทำผลงานให้กับทีมได้อย่างโดดเด่น แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในเวลานี้ เหมือนตัวนักเตะจะไม่ได้เป็นเพียงจอมถล่มประตูให้กับทีมซะแล้ว หลังจบเกมที่ทีมเปิดบ้านอัด ไฟร์บวร์ก ไปด้วยสกอร์ 4-0 เมื่อคืนวันเสาร์ในบุนเดสลีกา เยอรมัน
ฮาแลนด์ทำได้ 2 ประตูในเกมที่ถล่มไฟร์บวร์กได้ 4-0 ให้นักเตะมีสถิติทำได้ 21 ประตู จากการลงสนาม 23 เกมรวมทุกรายการให้กับทีม นับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีมเมื่อต้นปี ในขณะที่ฤดูกาล 2020-21 ดาวยิงวัย 20 ปี ทำได้ 4 ประตู จากการลงสนาม 3 เกมในบุนเดสลีกาด้วย ทำให้เจ้าตัวมีค่าเฉลี่ยในการทำประตูอยู่ที่ 80 นาทีต่อลูก
แน่นอนว่าตัวเลขเหล่านี้เป็นสิ่งที่ ลีโอเนล เมสซี่ หรือ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เท่านั้นที่ทำได้ แต่เมื่อมองถึงอายุของฮาแลนด์ ยิ่งทำให้นักเตะจะมีอนาคตที่ไปได้ไกลมากๆ หากยังคงพัฒนาการเล่นและรักษาระดับความมุ่งมั่นในการเล่นต่อไป กับพรสวรรค์ที่แสดงออกมา
นอกจากสถิติการทำประตูที่โดดเด่นของฮาแลนด์ แต่เกมล่าสุดตัวนักเตะก็แสดงให้เห็นถึงความสามารถอีกขั้นหนึ่ง กับน้ำใจต่อเพื่อนร่วมทีมในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ หลังจากตัวเขาหลุดเดี่ยวมากับเพื่อนร่วมทีม ซึ่งฮาแลนด์มีโอกาสที่จะทำแฮตทริคในเกมนี้ แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจเลือกผ่านบอลไปให้กับเฟลิกซ์ พาสส์แล็ค ยิ่งตอกย้ำถึงความโดดเด่นสำหรับการเล่นของตัวเขามากไปอีก รวมถึงการเติบโตในทัศนคติการเล่นฟุตบอล เมื่อไม่ได้มองกับสถิติของตัวเองเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่เป็นการมองถึงผลลัพธ์ของทีม ซึ่งมากกว่าจะเป็นประตูที่จะทำให้ตัวเขาเหลือค่าเฉลี่ยในการทำประตูเพียง 75 นาทีต่อประตู
การเล่นบอลในจังหวะง่ายๆ เล่นในจังหวะที่ควรเล่น จ่ายในจังหวะที่ควรจ่าย ยิงในจังหวะที่ควรยิง ซึ่งเป็นสมบัติของสุดยอดนักเตะ นอกจากจะเป็นพรสวรรค์แล้ว มันต้องเป็นที่จะต้องมีประสบการณ์และการเรียนรู้ แต่นั่นคือสิ่งที่ฮาแลนด์วัย 20 ปี ทำในเวลานี้ ไม่ว่าหลังจากนี้จะเป็นยังไง แต่ก็น่าจะเป็นหนึ่งในสิ่งที่น่าสนใจสำหรับนักเตะยุคใหม่ที่ต่อจากยุคของโรนัลโด้และเมสซี่ ซึ่งถ้าหากนักเตะยังพัฒนาการเล่นต่อไปเรื่อยๆ แทบไม่ต้องสงสัยเลยว่าสุดท้ายแล้วนักเตะจะไปจบที่ตรงไหน สำหรับคำว่านักเตะระดับโลกหรือการคว้ารางวัลนักเตะบัลลง ดอร์