มันคือการปฏิเสธโอกาสสำคัญในการย้ายทีมที่ตัวของ ตำนานเทรนเนอร์ผู้ล่วงลับอย่าง อัลเฟรโด้ ดิ สเตฟาโน ต้องจำไปจนกระทั่งทุกวันนี้ที่เขาอยู่ในปรภพเลยทีเดียว เพราะตัวของเขาเคยโดนปฏิเสธจากสุดยอดตำนานนักเตะที่ได้ชื่อว่าอีโก้จัด ยอมหักไม่ยอมงออย่าง โยฮัน ครัฟฟ์ มาแล้วนั่นเอง !
โคตรซูเปอร์สตาร์ชาวกังหันลมรายนี้ เป็นทั้งจอมทัพและกองหน้าของทีม อาแจ็กซ์ และ ทีมชาติฮอลแลนด์ยุครุ่งเรืองเลยทีเดียว เขาผ่านการพาทีม อาแจ็กซ์ คว้าแชมป์ยุโรปมาครองได้ถึง 3 สมัยติดต่อกัน รวมถึงแชมป์รายการต่างๆมากมาย ขาดไม่ได้กับบัลลงดอร์ด้วย ทำให้ตัวของ ครัฟฟ์ ได้กลายเป็นนักเตะเลือดดัตช์คนแรกที่คว้ารางวัลบัลลงดอร์มานอนกอด และแน่นอนว่าเพราะด้วยความสามารถในการเล่นอันสูงส่งของเขานี่เอง มันไปโดนใจทีมยักษ์ใหญ่มากเลยทีเดียว โดยเฉพาะกับ บาร์เซโลนา และ เรอัล มาดริด สองทีมชั้นนำของลีกสเปนที่ตามล่าลายเซ็นของ ครัฟฟ์ มาเป็นเวลานานแล้ว
หากว่า บาร์ซ่า สนใจนักเตะรายไหนนั้น มาดริดก็มักจะสนใจนักเตะรายนั้นๆด้วยเช่นกัน และในหนนี้ พวกเขาก็ได้จัดการทาบทามตัวของ ครัฟฟ์ หวังจะให้เขาย้ายมาเล่นในถิ่นเบร์นาเบวให้ได้ แต่ในยกแรกนั้น ครัฟฟ์ ก็ได้ปฏิเสธ ไม่เอาด้วยกับการจะย้ายมาเล่นให้กับ มาดริด จนท้ายที่สุดนั้น ดิ สเตฟาโน ก็ได้เดินทางไปเจรจากับ ครัฟฟ์ ด้วยตัวเองถึงที่อัมสเตอร์ดัม
ผลที่ได้น่ะเหรอ ครัฟฟ์ ตอกกลับ “ปู่ดิ” ซะหน้าหงายด้วยเรื่องที่ว่า เขาจะไม่ยอมสิโรราบด้วยการเซ็นสัญญากับทีมที่ได้ชื่อว่ามีเผด็จการอย่าง นายพัลฟรังโก้ ที่คนเกลียดชังกันทั่วโลกคอยหนุนหลังอย่างแน่นอน และจะไม่มีวันทำตัวกดดันนักเตะและเอาเงินฟาดหน้าแบบที่คนของ เรอัล มาดริด กำลังทำกับเขาอย่างแน่นอน หลังจากนั้นเป็นต้นมา ดิ สเตฟาโน ก็ได้กลายเป็นไม้เบื่อไม้เมากับ ครัฟฟ์ มาโดยตลอด ส่วนทางตัวของ ครัฟฟ์ ก็ย้ายไปเล่นให้กับ บาร์เซโลนา ที่เป็นทีมอริตัวเป้งของมาดริดด้วยค่าตัวเป็นสถิติโลกในสมัยนั้น